ดวงตา เป็นอวัยวะที่มีความซับซ้อน ละเอียดอ่อน ไวต่อเชื้อโรคมากที่สุด การดำเนินชีวิตของคนในปัจจุบันต้องเผชิญกับมลภาวะ และฝุ่นละอองเป็นจำนวนมาก จึงอาจเป็นสาเหตุให้ดวงตาเกิดความผิดปกติได้
โรคตาแดง เป็นอีกโรคฮิตที่มีจำนวนผู้ป่วยมากที่สุด เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุตาจากการติดเชื้อไวรัส เป็นกลุ่มอาดิโนไวรัส สามารถพบได้ในทุกเพศ ทุกวัย และในสถานที่ที่มีผู้คนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก โรคตาแดงมักจะระบาดในช่วงฤดูฝน อาการของโรคเกิดได้ภายใน 1-2 วัน ระยะการติดต่อไปยังผู้อื่นประมาณ 14 วัน
ผู้ป่วยจะมีอาการตาแดง เคืองตา น้ำตาไหล เจ็บตา มักมีขี้ตามาร่วมด้วย ต่อมน้ำเหลือง หน้าหูมักเจ็บ และบวม มักเป็นที่ตาข้างใดข้างหนึ่งก่อน และจะติดต่อมายังอีกข้างได้ ถ้าระมัดระวังไม่ให้น้ำตาข้างที่ติดเชื้อไวรัสมาถูกตาอีกข้าง ก็จะช่วยป้องกันตาข้างที่ยังไม่มีอาการได้

อาการแทรกซ้อนของโรคตาแดง คือจะมีอาการเคืองตามาก ลืมตาไม่ค่อยได้ มักมีอาการกระจกตาอักเสบ ซึ่งจะดีขึ้นได้ประมาณ 3 สัปดาห์ หรือบางรายเป็น 1-2 เดือน ทำให้ตามัวพร่าอยู่เป็นเวลานาน

การป้องกันโรคตาแดง ทำได้หลายวิธี ดังต่อไปนี้

1.ล้างมือด้วยน้ำสะอาดทุกครั้ง

2.ไม่คลุกคลีหรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วยโรคตาแดง

3.ถ้ามีฝุ่นละออง หรือน้ำสกปรกเข้าตา ควรล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันที

4.อย่าปล่อยให้แมลงหวี่ หรือแมลงวันตอมตา เพราะเป็นพาหะของโรค

5.หมั่นดูแลรักษาความสะอาดของร่างกาย สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ให้สะอาดอยู่เสมอ

6.ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า ปลอกหมอน เพื่อป้องกันการกระจายของเชื้อโรค

7.หลีกเลี่ยงการใช้มือสกปรกสัมผัสที่ตา

การรักษา

ตาแดงเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส และยังไม่มียาฆ่าเชื้อไวรัสโดยตรง หากมีอาการป่วยเกิดขึ้น อาทิ มีขี้ตามาก ควรใช้ยาหยอดตา ถ้ามีไข้ เจ็บคอร่วมด้วย ก็ควรรับประทานยาลดไข้ หรือยาแก้อักเสบ ผู้ป่วยโรคตาแดง ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ห้ามขยี้ตา ไม่จำเป็นต้องปิดตาไว้ตลอด ยกเว้นถ้ามีอาการกระจกตาอักเสบ เคืองตามาก จึงปิดตาเป็นครั้งคราว และควรสวมแว่นกันแดดเพื่อป้องกันแสง ควรงดการใช้ผ้าเช็ดหน้าร่วมกัน ก่อนใช้มือสัมผัสที่ตา ควรล้างมือให้สะอาด ผู้ป่วยไม่ควรลงเล่นน้ำในสระ เพราะเชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายทางน้ำได้

อย่าปล่อยให้เชื้อไวรัสมาแผลงฤทธิ์ เมื่อรู้ตัวว่ามีอาการป่วยเป็นโรคตาแดง ต้องรีบทำการรักษา ถ้ารักษาด้วยการหยอดตาแล้วอาการยังไม่ทุเลา หรือมีอาการอื่นแทรกซ้อน ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที หากชะล่าใจอาจเป็นอันตรายถึงขั้นตาบอดได้

Tags : , , , , | add comments