ในช่วงของสถานการณ์​ที่พ่อ​แม่ผู้ปกครอง​หลายๆ​คน​มีโอกาส​ได้อยู่บ้านแบบยาวๆ​ เด็กๆ​ เองก็หยุดแบบยาวๆ​ กัน​ การมีเวลาว่างๆ​ ของเด็ก ถ้าเป็นครอบครัวที่สรรหากิจกรรม​ต่างๆ​ ได้ทำร่วมกัน​ ก็จะทำให้เด็กๆ​ อาจมีเวลาค้นหาตัวตนของตนเองว่าชอบอะไร​ แต่ในปัจจุบันน่าเสียดายที่เวลาของครอบครัว​ถูกเบียดด้วยจอสี่เหลี่ยม​ที่เราเป็นคนพามันเข้าสู่ครอบครัว​ แล้วทำให้เวลาในการปฏิสัมพันธ์​กันในครอบครัว​หายไป​ ทั้งๆ​ ที่อยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน
จากสถานการณ์​ของการระแพร่ระบาด​ ทำให้เกิดสิ่งต่างๆ​ ปรากฏ​การณ์ใหม่ๆ​ หรืออาจเรียกว่าวิวัฒนาการ​ที่ทำให้การดำรงชีวิต​ของเราเปลี่ยนแบบไปบ้างไม่มากก็น้อย​ แต่ที่แน่ๆ​ คือ​เด็กในรุ่นนี้ต้องเผชิญ​กับการแข่งขันที่สูงมาก​ คงไม่มีพ่อแม่​ คนไหนคิิดจะให้บุตรหลานอยู่ภายใต้ปีกที่อบอุ่นของตนเองจนเค้าจากไป​ เรามีเพียงหน้าที่ที่จะดูแล​ชี้นำในสิ่งที่ถูกต้องหรือ​ เลือก#โรงเรียน สังคมให้เขาในวัยเด็กเท่านั้น​ สิ่งที่เราต้องคิดคือ​ เราได้เตรียมความพร้อมให้กับเขาสำหรับยุคของการใช​ AI (Artificial Intelligence) แล้วหรือยัง​
ยุคของ​ AI คืออะไร​ คือยุคที่มีการเปลี่ยนจากแรงงานคนเป็นคอมพิวเตอร์​เกือบทั้งหมด​ คำว่าแรงงานไม่ได้หมายความแค่ผู้ใช้แรงงาน​ แต่หมายรวมถึงพนักงาน​ทั่วไป​ ที่จะถูกแทนที่ด้วยระบบที่มีฐานข้อมูล​ของคอมพิวเตอร์​ทั้งหมด​ ด้วยความที่เกิดมาในยุคดิจิทัล​ ทำให้ทุกอย่างต้องรวดเร็ว​ จึงขาดทักษะ​ของการรอคอย​ ไม่เห็นคุณค่า​ของการสิ่งของที่ได้มา​เพราะไม่เคยต้องแลกกับการรอคอย​ หรือการต้องทำบางอย่างเพื่่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ ประกอบกับทางเลือกของพ่อแม่ผู้ปกครอง​ ทำให้เด็กทุกคนกลายเป็นลูกเทวดาในโรงเรียน​ เพราะโรงเรียนมีการแข่งขันกันสูงจึงถือว่าเด็กนักเรียนเป็นลูกค้า​ ความพึงพอใจ​ของลูกค้าต้องมาก่อน​ เมื่อหันไปหาโรงเรียนทางเลือกอย่างโรงเรียนอินเตอร์​ ซึ่งในช่วงของปฐมวัยจนจบระดับประถมศึกษา​ เน้นการเรียนแบบ​ child center นั่นคือแบบบูรณาการ​ที่เราคุ้นเคย​ การเรียนขึ้นอยู่กับความสนใจของเด็ก บางโรงเรียนการบ้านเป็นแบบ​ optional คือส่งหรือไม่ส่งก็ได้​ กลับกลายเป็นทำให้เด็กขาดวินัยอย่างรุนแรง สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้เด็กในยุค​ ​4.0 กลับกลายเป็นการบ่มเพาะความเปราะบาง​ทางด้านอารมณ์​ ขาดวินัย​ ไร้ความพยายาม​ ไม่มีความอดทน​ สิ่งต่างๆ​ เหล่านี้​ไม่สามารถ​ทำให้เขาเติบโตในยุคของการแข่งขันกับเทคโนโลยี​ได้เลย
ดังนั้น​ อย่าให้เขาต้องเผชิญ​ปัญหา​ในขณะที่เขาไม่สามารถแก้ไขนิสัยได้​ เราซึ่งเป็นพ่อแม่​ ผู้ปกครอง​ เป็นผู้ที่วางกรอบให้​ แต่ไม่ได้มีหน้าที่ในการตีกรอบ​ วางให้เขาอยู่ในระเบียบวินัย​ ใส่ทักษะของการรอคอย​ ปล่อยให้เรียนรู้ที่จะผิดหวัง​ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม​ สร้างภูมิต้านทานให้เขาได้ก้าวเดินอย่างมั่นคงในเวลาที่เขาต้องเดินโดยไม่มีไหล่คุณให้เกาะ..
#เรามีสิทธิเลือกเส้นมางให้ลูก
#เลือกผิด= เหนื่อยเพิ่มขึ้น
#เลือกถูก= อนาคตที่ดีของลูกเรา
#สถาบันคิดสแควร์

Tags : , , , , , , , , , , , , , , , , , | add comments

เมื่อวันเดียวกันของปีที่แล้ว คนไทยทุกคนมีความรู้สึกว่าได้ สูญเสีย เสาหลัก ที่พึ่ง ที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ อันเป็นที่รักของเราทุกคน แต่มาจนถึงบัดนี้ สิ่งที่เหลืออยู่คือ หลักปฏิบัติ และคำสอนที่อยู่คู่กับคนไทยมาโดยตลอด ทำให้มีความรู้สึกว่า พระองค์ท่านไม่ได้ไปไหน เพียงแต่พระองค์ท่านแปรพระราชฐาน สถิตบนสรวงสวรรค์ พระองค์ท่านทรงดูแลเราทุกๆ คน และยังอยู่ในใจคนไทยทุกคนตลอดกาล

Tags : , , , , , , , , , , , , , | add comments

เทวดาช่วยที…

Posted by malinee on Sunday Nov 27, 2016 Under เกร็ดความรู้

3e2c7d95bf762099a411bbfdddcd8dcb          เป็นพ่อแม่ผู้ปกครองสมัยนี้ ดูเหมือนจะง่ายกว่ายุคก่อนๆ เนื่องจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า แต่สร้างปัญหาภายในบ้านให้เกิดได้เช่นกัน

อาจกล่าวได้ว่าหน้าที่ของเด็กๆ มีเพียงหน้าที่เดียวคือเรื่องการเรียน แต่ณ ปัจจุบันเราจะพบว่าเด็กมีปัญหาเรื่องสมาธิกันจำนวนมาก เมื่อเด็กมีปัญหาเกี่ยวกับสมาธิ ก็ไม่สามารถที่จะเรียนรู้ได้เป็นปกติ แต่เด็กหลายๆ คนก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องสมาธิ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับการเรียนรู้ของเขาเหล่านั้น

เด็กหลายๆ คนเป็นเด็กปกติ แต่มีปัญหาในการเรียนโดยเฉพาะการเรียนวิชาคณิตศาสตร์นั้น บ่อยครั้งพบว่าเด็กมีปัญหาตั้งแต่ในช่วงแรกของการเรียนคณิตศาสตร์ นั่นคือเรื่องของการคำนวณ เมื่อปัญหาดังกล่าวไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหาก็จะสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ และเด็กในกลุ่มนี้ก็จะมีทัศนคติที่ไม่ดีในการเรียนคณิตศาสตร์ ปัญหาเรื่องการคำนวณเป็นปัญหาเริ่มต้นที่จะนำไปสู่ปัญหาต่างๆ เมื่อเจอเรื่องที่ซับซ้อนมากขึ้น ต้องจำสูตรและมีการคำนวณที่ยากขึ้น ก็จะอ้างว่าเค้าพยายามแล้วแต่ไม่เข้าใจ

เด็กในกลุ่มดังกล่าวอาจเป็นเพราะการสะสมความไม่เข้าใจ จนไม่สามารถที่จะเรียนในกลุ่มใหญ่ๆ หรือในชั้นเรียนได้ จึงจำเป็นที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องหาครูเข้าช่วย แก้ปัญหาอย่างตรงจุดและต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นปัญหาจะถูกแก้ไขก็ต่อเมื่อได้รับความร่วมมือและตระหนักถึงปัญหาของตนเองด้วยเช่นกัน

ความร่วมมือจากผู้เรียนคือ ความพยายามที่จะเรียนรู้การแก้ปัญหาโจทย์ในบทเรียนที่ผ่านมา การทบทวนบทเรียนในการเรียนแต่ละครั้งอย่างสม่ำเสมอ (การบ้าน) การท่องจำสูตรและคุณสมบัติต่างๆ ที่จำเป็น แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือ เด็กไม่ให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาของตนเอง ไม่ใส่ใจและตระหนักถึงหน้าที่ของตนเอง ถ้าเป็นแบบนี้อย่าว่าแต่ครูเลย เทวดาก็ช่วยไม่ได้…

Tags : , , , , , , , , , , , , , , , | add comments