Aug 23
ควันหลงหลังจากประกาศผลการสอบกลางภาค ซึ่งมีทั้งผลดีและผลเสียต่อเด็กในแต่ละกลุ่ม
เรามาพิจารณาถึงผลดีก่อน เด็กในกลุ่มที่ส่งสัญญานการต้องการความช่วยเหลือ ผู้ปกครองในกลุ่มนี้ควรจะไม่ควรจะละเลยสัญญานที่เกิดขึ้น จำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือโดยการกำจัดสิ่งที่ยังติดค้าง หรือความไม่เข้าใจให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อให้เขาได้ก้าวเดินต่อไปในระดับที่ยากขึ้น อย่าปล่อยให้เด็กเก็บสะสมความความไม่เข้าใจมากขึ้นจนไม่สามารถแก้ไขได้
ส่วนกลุ่มที่ส่งผลเสีย ก็ได้แก่ กลุ่มที่มักนำผลการเรียนของบุตรหลานไปเปรียบเทียบกับเพื่อนร่วมชั้น การเปรียบเทียบกันในชั้นเรียนไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่การเปรียบเทียบในกลุ่มดังกล่าวมักต้องการให้บุตรหลานของตนเองไม่เพียงแต่อยู่ในระดับต้นๆ เท่านั้น แต่ต้องการให้บุตรหลานเป็นที่หนึ่งตลอดเวลา ซึ่งในการสอบแต่ละครั้ง ไม่เพียงแต่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมแล้ว ยังรวมถึงความพร้อมในเรื่องของสมาธิในวันนั้น ๆ ด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นในเด็กกลุ่มนี้คือ การถูกส่งไปเรียนในสถาบันต่างๆ อย่างหนัก เพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งที่หนึ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องการ แต่เมื่อใดที่ไม่ได้เป็นที่หนึ่ง เด็กๆ ก็จะต้องถูกเปลี่ยนที่เรียนหรือเรียนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเขาเหล่านั้นขาดความสดใส ขาดความกระตือรือร้นในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง เนื่องจากถูกป้อนความรู้จนเคยชิน จนกลายเป็นการบ่มเพาะนิสัยที่ไม่มีความพยายามทำสิ่งต่างๆ ไม่กล้าลองผิดลองถูกในสิ่งใหม่ๆ สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้คือ การต่อต้านการเรียนอย่างเงียบๆ มีหน้าที่ไปเรียน แต่ไม่ได้ตั้งใจ หรือมีสมาธิอยู่กับการเรียนไม่ว่าจะเป็นการเรียนใดๆ
ดังนั้นก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เราผู้เป็นพ่อแม่ผู้ปกครองควรเปลี่ยนทรรศนคติที่ต้องการให้บุตรหลานเป็นที่หนึ่ง มาร่วมกันปลูกฝังให้เขาได้ตระหนักและรู้จักทำหน้าที่ในเรื่องการเรียนให้ดีที่สุด น่าจะทำให้เขามีความทรงจำที่มีความสุขในช่วงวัยเรียนของเขาตลอดไป
ครูจา
Aug 09
หลังจากเปิดเรียนไปจนมาถึงช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ผ่านการสอบกลางภาคแล้วของหลายๆ โรงเรียน มีการประกาศผลการสอบแล้ว การประกาศผลการสอบมีผล 2 แง่ ถ้าในแง่ดีก็คือเป็นการแจ้งให้ผู้ปกครองได้รับทราบและปรับปรุงแก้ไขปัญหาของบุตรหลานที่ไม่เข้าใจเนื้อหา แต่ในทางตรงกันข้ามหากพ่อแม่ผู้ปกครอง พยายามให้บุตรหลานของตนแข่งขันกับเพื่อนร่วมชั้น ซึ่งหากเป็นการกระตุ้นให้เด็กเกิดความท้าทายและหาวิธีการเรียนรู้ต่างๆ ให้มากขึ้น แต่การแข่งขันที่เกิดขึ้นมักไม่เป็นเช่นนั้น การแข่งขันดังกล่าวมักส่งผลกระทบทำให้เด็กต้องถูกขับเคี่ยวให้อ่านหนังสือ หรือเรียนพิเศษเพิ่มขึ้น จนอาจทำให้เกิดความเครียด บางกรณีเด็กจะไม่กล้าพูดความจริงในเรื่องของการเรียน กรณีที่แย่ที่สุดคือการต่อต้านการเรียนในทุกๆวิชาได้
หากเป็นเช่นนั้นการแข่งขันกันในชั้นเรียนมักส่งผลในด้านลบกับเด็กมากที่สุด ดังนั้นหากพ่อแม่ผู้ปกครองไม่ต้องการให้บุตรหลานเกิดความเครียดจนต่อต้านการเรียน พ่อแม่ผู้ปกครองควรเปลี่ยนทรรศนคติที่จะนำบุตรหลานไปเปรียบเทียบหรือแข่งขันกับเด็กในวัยเดียวกัน เป็นการพัฒนาตนเองน่าจะดีกว่า
ครูจา
Jul 20
หลังจากเปิดภาคเรียนกันมาระยะหนึ่ง ช่วงนี้เป็นช่วงของการเข้าสู่ฤดูสอบกลางภาค หลายๆ ครอบครัวจะเตรียมตัวบุตรหลานอย่างขะมักเขม้น เพื่อให้เด็กๆ ได้ทบทวนบทเรียน ซึ่งในแต่ละครอบครัวก็จะมีแนวคิดที่แตกต่างกัน บางครอบครัว ก็จะปล่อยให้เด็กๆ เรียนรู้หรืออ่านหนังสือด้วยตนเอง แต่หลายๆ ครอบครัว พ่อแม่จะเป็นผู้ย่อยและคัดกรองเนื้อหาต่างๆ ให้กับบุตรหลาน เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนที่ดี
แนวทางแบบใดที่ดีกว่า หากมองกันจริงๆ การเรียนในบางวิชา เช่น คณิตศาสตร์ ก็เหมือนกับการฝึกให้เด็กมีความมุมานะ พยายาม ในการแก้ปัญหา หากเพียงเรื่องเรียนซึ่งเป็นหน้าที่หลักของเด็กๆ ยังไม่สามารถที่จะทำได้ เราก็ต้องตั้งคำถามก่อนว่าเราจะสามารถช่วยเขาได้ถึงเมื่อไร และหลังจากที่เราไม่ช่วยเขาแล้ว เขาจะสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตนเองเมื่อใด หากเป็นเช่นนี้ ทำไมเราไม่ใช้วิธีที่ค่อยๆ ปล่อยให้เขาได้เรียนรู้ลองผิดลองถูก เหมือนกับการเดิน ก่อนการเดินเขาจะต้องเรียนรู้ที่จะคืบ คลานและตั้งไข่ตามลำดับ คงไม่มีใครที่ไม่ผ่านกระบวนการดังกล่าวหรือข้ามขั้นใดขั้นหนึ่งไปได้ การเรียนก็เช่นกัน หากเราทำหน้าที่เป็นโค้ชที่คอยแนะนำ ให้กำลังใจ อยู่ข้างสนามเพื่อคอยชี้นำหรือแนะวิธีการที่ถูกต้องก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้เขาได้มุมานะ พยายามด้วยความสามารถของตนเอง ไม่เคยมีโค้ชคนไหนเข้าไปเล่นแทนนักกีฬาเลย โค้ชมีหน้าที่เพียงชี้แนะและฝึกหัดให้มีข้อด้อย น้อยที่สุดเท่านั้น เช่นเดียวกับพ่อแม่ที่คอบชี้แนะ ให้เขาได้ลองผิดลองถูกและสร้างกระบวนการเรียนรู้ของตนเอง ซักวันเขาก็จะกลายเป็นนักเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดในที่สุด
ครูจา
Jul 15
ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลการสอบกลางภาคของเด็ก ๆ เป็นช่วงที่มักจะเห็นหน้าตาที่คร่ำเคร่งของเด็ก ๆ แต่คร่ำเครียดของผู้ปกครอง
เรามักพบว่าหลาย ๆ ครอบครัว ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องนั่งอ่านหนังสือกับลูก กับอีกหลาย ๆ ครอบครัวที่คุณพ่อ คุณแม่อ่านจับใจความและทำการขีดเส้นใจความสำคัญให้บุตรหลาน เพื่อเป็นการย่นระยะเวลาในการอ่านเนื้อหาที่ไม่จำเป็นออกไป
การอ่านหนังสือที่คุณพ่อคุณแม่ อ่านไปพร้อมกับลูก โดยที่ให้เด็กมีหน้าที่หลักในการอ่าน และคุณพ่อคุณแม่คอยช่วยเสริม หรือบรรยาย ให้เด็กมีความเข้าใจมากขึ้น อาจจะเสียเวลามากกว่าแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ การได้ฝึกบุตรหลานทั้งทักษะในการอ่าน การอ่านจับใจความ และเพิ่มสีสันให้กับการอ่านหนังสือสอบที่ไม่น่าเบื่อ เพราะจะมีประสบการณ์หรือเรื่องเล่าจากคุณพ่อคุณแม่เพิ่ม แต่ในทางกลับกันหากคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้ลงมืออ่าน และจับใจความให้กับบุตรหลาน สิ่งที่ได้กลับมาคือ การอ่านหนังสือแบบไม่สามารถจับใจความสำคัญของบทเรียน เบื่อหน่ายกับการอ่านหนังสือที่เป็นเพียงตัวหนังสือที่ถูกขึดเป็นช่วงเป็นตอน ที่ไม่น่าสนใจ และเมื่อเขาโตขึ้น บทเรียน และกิจกรรมต่าง ๆ ก็จะมีมากขึ้น ทำให้การอ่านเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะเลือก ทั้งการหาความรู้ และการเรียนรู้ด้วยตนเอง
หากแต่วันนี้คุณพ่อ คุณแม่ต้องอดทน รอคอย ฝึกฝน ให้เขาได้เพิ่มพูนทักษะอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตั้งแต่เล็ก และเขาจะสามารถนำมาใช้เมื่อเขาโตขึ้นได้ด้วยตนเอง