ผูกตำรากับประสบการณ์
Posted by malinee on Wednesday May 22, 2013 Under เกร็ดความรู้ ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง กับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้เด็กในปัจจุบันขาดประสบการณ์ในบางเรื่องที่เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้สังเกต หรือนึกถึง ตัวอย่างง่าย ๆ คือ ในการเรียนเรื่องเงินของเด็กในประถมต้น ยังมีหน่วยของ 50 สตางค์ และ 25 สตางค์อยู่ แต่ในชีวิตความเป็นจริง โอกาสที่เด็กจะได้พบหรือใช้กับเหรียญทั้งสองชนิดนี้แทบไม่มีแล้ว เนื่องจากในชีวิตประจำวันของพวกเขา เช้ามาพ่อแม่ผู้ปกครองก็ให้เงินเป็นธนบัตร หลังจากนั้นก็พาขึ้นรถ(ส่วนตัว) ซึ่งไม่ใช่รถโดยสารประจำทางที่จะต้องมีการจ่ายค่าโดยสารเป็นสตางค์ พอมาถึงโรงเรียน โรงเรียนบางโรงเรียนก็ให้เด็กนำเงินไปแลกเป็นชิพ ไม่ได้ใช้เงินที่จะต้องแลกเปลี่ยน หรือทอนกลับมา นี่เป็นเพียงตัวอย่างของหัวข้อในการเรียนเพียงหัวข้อเดียวซึ่งเป็นเรื่องที่น่าจะใกล้ตัวเด็กมากที่สุด แล้วในหัวข้ออื่น ๆ เช่นเรื่องมาตราชั่ง ตวง วัด (ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่กระเถิบออกมาจากเรื่องเงิน) วิถีการดำเนินชีวิตของคนในปัจจุบัน ยากนักที่จะพาลูกเดินตลาดที่ยังมีตาชั่งในรูปแบบของเข็ม แต่จะเป็นการซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้าที่มีตาชั่งแบบดิจิตอล หากในช่วงเวลาของการจับจ่ายของ ของผู้ปกครองสามารถเชื่อมโยงความรู้ในตำรา หรือคอยเสริมประสบการณ์ในห้างสรรพสินค้าแล้ว หัดให้เด็ก ๆ ได้รู้จักปริมาณ ปริมาตร หรือน้ำหนัก ให้เขาได้รู้ว่าสิ่งที่เรียนไม่ได้อยู่แต่ในตำราเท่านั้น มันมีความเกี่ยวโยงในชีวิตประจำวัน เขาก็จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์จริงเหล่านี้ มาเป็นข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้นในช่วงของการเรียนได้เป็นอย่างดี
ความไม่เข้าใจในการเรียนที่มีอยู่แต่ในหนังสือเรียน ไม่มีการนำอุปกรณ์ เป็นตัวอย่างในชั้นเรียน ไม่เห็นภาพหรือของจริงที่จับต้องได้ หรือนำมาเปรียบเทียบกัน หากเราจะทำให้เด็กมีความเข้าใจง่ายขึ้นนั้น เราจำเป็นจะต้องเพิ่มประสบการณ์ชีวิตให้เด็ก ๆ บ้างในวันหยุดสุดสัปดาห์ หากเขาได้มีประสบการณ์หรือการเห็นตัวอย่างที่แท้จริง เพียงเท่านี้ก็เป็นตัวช่วยให้เด็กมีความเข้าใจ ที่ได้จากประสบการณ์ที่มากขึ้นได้