math02          เนื่องจากมีคำถามที่น่าสนใจ ทิ้งไว้ใน Facebook ของทางสถาบันว่า น้องอายุ 12 ปีจะช้าไปหรือไม่สำหรับการเรียนจินตคณิต  หรือหลาย ๆ คำถามมักถามถึงการเรียนจินตคณิตว่าอายุเท่าไรจึงจะเหมะสมในการเริ่มเรียนจินตคณิต  เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีพื้นฐานของการเลี้ยงดู และการเรียนที่แตกต่างกัน การเรียนจินตคณิตจึงไม่ตายตัวสำหรับเด็กทุก ๆ คน แต่จากสถิติและประสบการณ์ เรามักพบว่า เด็กในวัยอนุบาลที่เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับจำนวนและตัวเลข จะเป็นวัยที่สามารถเรียนรู้ได้โดยไม่รู้สึกว่าการเรียนลูกคิดง่ายหรือยากเกินไป เนื่องจากเป็นวัยที่ต้องเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่แล้ว และเมื่อถึงการจินตนาการภาพลูกคิด เด็ก ๆ ก็จะทำได้อย่างไม่ยากเย็นเหมือนเด็กที่โตกว่า ที่ผ่านกระบวนการคิดแบบทด หรือการคิดในใจ ที่ถูกฝึกมาจนชิน ทำให้การสร้างจินตภาพมักเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากกว่าเด็กเล็ก แต่ไม่ได้หมายความว่าเด็กที่โตกว่าจะทำไม่ได้ เพียงแต่ว่าในช่วงสร้างจินตภาพนั้น เขาต้องใช้สมาธิและความพยายามในการจินตนาการในช่วงแรกมากกว่าเด็กเล็กเท่านั้นเอง แต่เมื่อได้รับการฝึกฝนก็สามารถทำได้ไม่ยากเช่นกัน

แต่ข้อได้เปรียบของเด็กเล็กอีกประการหนึ่งคือ หลังจากที่มีการฝึกใช้อย่างต่อเนื่อง เด็กเล็กมักเกิดความคุ้นเคยและคล่องแคล่ว เมื่อใดที่มีการคิดเลข ก็สามารถนำการจินตนาการมาใช้ได้ทันที และส่วนใหญ่มักได้คำตอบที่เร็วและแม่นยำ ส่งผลให้ทัศนคติในการเรียนคณิตศาสตร์ดี มีความมั่นใจในการเรียนมากขึ้นด้วย

Tags : , , , , , , , , , , , | add comments

ในวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2554 ทางโรงเรียนจัดให้มีการซ้อมใหญ่เพื่อแข่งขันจินตคณิตคิดเร็ซขึ้น ในเวลา 15 : 30 – 16:15 น. หากท่านใดสนใจดูคลิป เข้าชมได้ที่ facebook “จินตคณิต ลูกคิดญี่ปุ่น”

Tags : , , , , , , , , , , , , | add comments

           การเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับบุตรหลาน เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ผู้ปกครอง จึงมักมีคำถามที่พบบ่อยกับการเรียนจินตคณิต หรือแม้กระทั่งคณิตศาตร์เอง ซึ่งแยกได้พอสังเขปดังนี้

–          วัยใดที่เหมาะกับการเรียนจินตคณิตที่สุด จากประสบการณ์ในการสอนพบว่าเด็กแต่ละคนมีความพร้อมที่แตกต่างกัน ซึ่งเราพบว่าการเรียนจินตคณิตในวัยที่เด็กยังไม่มีความชำนาญในการบวกลบตัวเลขที่คล่องจะได้ประโยชน์มากกว่า เนื่องจากเด็กที่คิดเลขได้คล่องแล้วจะรู้สึกยุ่งยากเมื่อต้องใช้ลูกคิดกับตัวเลขที่ง่าย ในขณะที่เด็กเล็ก ๆ ลูกคิดจะเป็นสื่อหรือเครื่องมือที่ช่วยให้เค้าได้คิดจำนวนซึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่งออกมาเป็นรูปธรรมได้ ซึ่งเมื่อเด็กมีการใช้อุปกรณ์ดังกล่าวจนเกิดความคุ้นชินแล้ว มันยังสามารถสร้างจินตภาพให้เค้าได้อีกในระดับต่อไป แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเด็กที่คิดเลขคล่องไม่สามารถสร้างจินตภาพดังกล่าวได้ เพียงแต่การสร้างจินตภาพนั้นต้องผ่านการฝึกฝน ซึ่งเด็กทุกคนหรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่ก็สามารถฝึกฝนได้เช่นเดียวกัน แต่ภาพที่เกิดกับผู้ใหญ่นั้นไม่ชัดเจน หรือมันเกิดการผสมผสานระหว่างตัวเลขกับจินตภาพมากกว่าในเด็ก ซึ่งจะเป็นภาพชัดเจน

–          เด็กจำเป็นต้องคิดเลขให้ได้เร็วหรือไม่  เชื่อว่าทุกคนก็มีคำตอบอยู่แล้วว่าไม่จำเป็น แต่สิ่งที่จำเป็นกับเด็กก็คือ การคิดเลขได้คล่อง ซึ่งมีกระบวนการหรือวิธีอยู่มากมายที่จะให้ได้คำตอบจากคำถามเพียงคำถามเดียว ซึ่งขึ้นอยู่กับศักยภาพและวิธีการของเด็กแต่ละคน

–          ทำไมเด็กจึงต้องเรียนคณิตศาสตร์ การเรียนคณิตศาสตร์เป็นการเรียนเพื่อให้เด็กนั้นจะมีการเรียนแบบเป็นขั้นเป็นตอน ในช่วงแรกจะเป็นการเรียนในแนวของความเข้าใจด้านจำนวน ผ่านแบบฝึกหัดต่าง ๆ รวมถึงตัวเลขสัมพันธ์ มีการเรียนมิติสัมพันธ์ เพื่อเสริมสร้างจินตภาพ ต่อมาเป็นการฝึกทักษะกระบวนการคิดให้เป็นขั้นเป็นตอนผ่านการวิเคราะห์โจทย์ ซึ่งเป็นการพัฒนากระบวนการคิดเพื่อให้เด็กได้ฝึกความอดทน สมาธิการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

Tags : , , , , , , , , , , , , , | add comments

จินตคณิต คืออะไร

วันชัย ตัน / เรื่อง
 
    ๑๒ หาร ๓ เป็นเท่าไร เชื่อว่าหลายคนคงคิดในใจหาคำตอบได้
    แต่ ๙๙๒.๕๘๗๓๑๘ หาร ๕,๖๔๗.๗๒๓ คำตอบคืออะไร ? 
 
ในการแข่งขันประลองความเป็นหนึ่ง ของเซียนจินตคณิต ในประเทศญี่ปุ่น ฮิโรเอกิ ทะซูชิยา ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที หาคำตอบได้เป็นคนแรก โดยไม่ใช้เครื่องคิดเลขใด ๆ คำตอบคือ ๐.๑๗๕๗๕๐๐๐๐๑๓๒๗๙๖๘๘๑๑๕๐๑๕๕๕๕๘๒๖๖๕๘

เปล่าครับ สมองของเด็กชายทะซูชิยา วัย ๑๓ ปี ไม่ได้มีชิปคอมพิวเตอร์ช่วยคิดเลข แต่เขาใช้ลูกคิดช่วยในการคำนวณ เหมือนกับพ่อค้าในอดีต และที่น่าสนใจก็คือ ทะซูชิยาไม่ได้ใช้นิ้วมือดีดลูกคิด คำนวณตัวเลขจริง ๆ แต่คำนวณโดยการสร้างภาพรางลูกคิดขึ้นในใจ  ซึ่งวิธีนี้คนในเอเชียหลายชนชาติ ใช้กันมานานหลายศตวรรษแล้ว
  
จินตคณิตคือเทคนิคการพัฒนาสติปัญญา เสริมสร้างสมาธิ เพื่อดึงอัจฉริยภาพในตัวเด็กออกมาให้ปรากฏ โดยใช้ลูกคิดเป็นสื่อสำคัญในการฝึก ซึ่งเมื่อฝึกถึงขั้นสูง เด็กจะมีจินตภาพ สามารถสร้างภาพลูกคิดขึ้นในใจ เพื่อช่วยในการคิดเลขได้เอง ครูสอนจินตคณิตกล่าวว่า คนส่วนใหญ่สามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญจินตคณิตได้ หากเริ่มฝึกตั้งแต่ยังเด็ก แต่จะต้องใช้เวลาในการฝึกฝนนาน ทั้งยังต้องควบคุมจิตใจ และทุ่มเทพลังสมาธิอย่างมหาศาล 
     
“ถ้าสติคุณไม่อยู่กับตัวเมื่อไหร่ คุณก็แพ้เมื่อนั้น” ทะซูชิยา ผู้ครองแชมป์การแข่งขันจินตคณิตแห่งเกียวโตรายล่าสุด และมีอายุน้อยที่สุด กล่าว
  
ลูกคิดเป็นเครื่องคำนวณเลขของจีน แพร่เข้ามาในญี่ปุ่นช่วงคริสตศตวรรษที่ ๑๕๐๐ การใช้ลูกคิดเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด ในการคำนวณตัวเลขจำนวนมาก อุปกรณ์รูปทรงสี่เหลี่ยมทำด้วยไม้นี้ มีลูกกลมขนาดใหญ่หลายตัว ทำหน้าที่เป็นตัวนับ โดยการใช้นิ้วมือเขี่ยให้เลื่อนไปมาบนแกนเหล็ก เพื่อหาคำตอบทั้งบวก ลบ คูณ หาร หรือแม้กระทั่งถอดรากที่สาม แต่ไม่นานนัก ปรมาจารย์ลูกคิดทั้งหลายต่างเห็นพ้องว่า การคำนวณโดยใช้จินตภาพว่ามีลูกคิดนั้น สามารถคิดเลขได้ง่ายกว่ามาก และคนที่เป็นเซียนจินตคณิต ก็สามารถคำนวณได้เร็วกว่าแคชเชียร์ ที่ใช้เครื่องคิดเลขด้วยซ้ำ
  
โคจิ ซูซูกิ ครูสอนจินตคณิตในโตเกียว แง้มเทคนิคสั้น ๆ ว่า “แทนที่เราจะคิดถึงตัวเลข ๑ ก็ให้จินตนาการถึงผลแอ๊ปเปิ้ลหนึ่งใบในกระเป๋าเสื้อคุณแทน ซึ่งมันมีรูปทรง และจับต้องได้ ในการคำนวณแบบจินตคณิต เราพยายามจะมองให้เห็นภาพลูกคิดเหล่านั้น”
  
อาการของเด็ก ขณะที่กำลังแก้ปัญหาตัวเลขในการแข่งขันจินตคณิต จะต่างกันไป บางคนทำท่าขยับนิ้วไปมาบนลูกคิดล่องหน ที่อยู่บนโต๊ะ บางคนโยกตัวอยู่บนเก้าอี้ และเคลื่อนไหวเหมือนคนไร้สติ ตามจังหวะการดีดลูกคิดในจินตนาการ ดูไปคล้ายๆ ผีลูกคิดเข้าสิง
  
บรรดาครูจินตคณิตกล่าวว่า การเล่นกายกรรมสมองแบบนี้ ไม่ได้ช่วยแค่การประหยัดเงินซื้อแบตเตอรี่เครื่องคิดเลข แต่ยังให้ประโยชน์ด้านอื่นด้วย
  
“คุณต้องคำนวณอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ถ้าคุณเอาแต่กดเครื่องคิดเลขอยู่ตลอดเวลา สมองของคุณก็จะเฉื่อยลงเรื่อย ๆ” อาจารย์อีกคนกล่าว
  
เด็กนักเรียนที่เก่งจินตคณิตยืนยันว่ามันไม่เพียงช่วยให้พวกเขาเก่งวิชาคณิตศาสตร์เท่านั้น แต่ช่วยให้พวกเขาเรียนวิชาอื่นได้ดีขึ้นด้วย  
     
คิมิโกะ คาวาโน นักวิทยาศาสตร์แห่งโรงเรียนแพทย์นิปปอน ซึ่งวิเคราะห์การทำงานของสมอง ในหมู่เซียนจินตคณิต ให้ข้อมูลว่าการฝึกฝนทักษะแบบนี้ ไม่มีผลในการเร่งรัด หรือพัฒนาการเจริญเติบโตของสมอง แต่เทคนิคการใช้สมาธิ และจินตภาพซึ่งจำเป็นสำหรับจินตคณิต จะช่วยบริหารสมองส่วนขวา ซึ่งควบคุมด้านจิตใจ อารมณ์ มากกว่าสมองส่วนซ้าย ที่ทำงานด้านการวิเคราะห์ หรือการคำนวณขึ้นพื้นฐาน การบริหารสมองส่วนขวา จะเป็นประโยชน์ในสถานการณ์ ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องของคณิตศาสตร์ คือจะช่วยให้คนที่เรียนจินตคณิต สามารถเรียนรู้เรื่องอื่น ๆได้เร็วกว่าคนที่ไม่ได้เรียน
   
แต่ปัจจุบัน เด็กญี่ปุ่นก็เหมือนเด็กเอเชียส่วนใหญ่ คือเลิกใช้ลูกคิดแล้ว ทั้งยังใช้วิธีคำนวณในหัวสมองน้อยลง เวลาคิดเลขก็จิ้มไปที่เครื่องคิดเลข หรือเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างเดียว
   
มิน่าเล่า สมองของเด็กรุ่นใหม่ จึงเหมือนคอมพิวเตอร์ คิดเองไม่ค่อยเป็น สงสัยเด็กรุ่นใหม่ต้องหันไปหาลูกคิด เพื่อฝึกให้สมองมีจินตนาการมั่งแล้ว 

ขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสารสารคดี

Tags : , , , , , , , , , , , , , , | add comments