การเรียนของเด็กๆ นั้น วิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่พ่อแม่ผู้ปกครองมักให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ นั่นอาจเกิดจากเหตุผลหลายประการ เช่น ตัวพ่อแม่ผู้ปกครองเองไม่ชอบคณิตศาสตร์ จึงไม่อยากให้บุตรหลานไม่ชอบคณิตศาสตร์เหมือนตนเอง หรืออาจเนื่องมาจากพ่อแม่ผู้ปกครองเห็นว่าหากเด็กๆ ไม่ชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์ จะส่งผลระยะยาวจนเขาโตขึ้น โอกาสในการเลือกเรียนนสาขาวิชาต่างๆ ก็จะน้อยลงด้วย

เมื่อเป็นเช่นนี้ หลายๆ ครอบครัวจึงปูพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ให้กับเด็กตั้งแต่ปฐมวัย บางครอบครัวก็เลือกวิธีที่จะสอนเอง โดยใช้สิ่งของเป็นสื่อ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่หลายๆ ครอบครัวใช้วิธีการส่งบุตรหลานเรียน หลายครั้งที่เด็กๆ ทำแบบฝึกหัดแบบซ้ำเดิม จนในที่สุดเด็กจำได้ เมื่อเห็นตัวเลขก็สามารถตอบได้ทันที การเรียนในแบบดังกล่าวให้ผลทั้งสองด้านกับเด็ก คือเด็กจะมีความมั่นใจและชอบคณิตศาสตร์มากขึ้น แต่ในทางตรงกันข้าม การเรียนโดยวิธีการใช้ความจำไม่เหมาะกับการเรียนคณิตศาสตร์ เนื่องจากเมื่อเด็กเจอตัวเลขที่พลิกแพลงไม่ตายตัว เขาก็อาจจะติดอยู่ในกรอบของการจำจนทำไม่ได้ เช่น หากมีการให้ใส่ตัวเลข อะไรก็ได้ที่มีผลลัพธ์เป็น 5 หากเด็กรู้จักเพียงแค่ 4 + 1 แล้ว เขาจะได้เพียงคำตอบเดียว  ซึ่งหลายๆ ครั้งที่คณิตศาสตร์ไม่ได้ต้องการเพียงคำตอบเดียว การเรียนคณิตศาสตร์ไม่ใช่วิชาท่องจำเหมือนวิชาประวัติศาสตร์ (เนื่องจากประวัติศาสตร์เป็นบันทึกความจริงที่ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้) ส่วนการเรียนคณิตศาสตร์ เมื่อเรียนขึ้นไปจนถึงชั้นมัธยม การเรียนคณิตศาสตร์จะเป็นการเรียนในขั้นที่สูงขึ้น ซึ่งต้องใช้จินตนาการและความเข้าใจมากขึ้นในการเรียน เด็กที่ถูกฝึกให้คิดอยู่ในกรอบ จะมีแบบและวิธีคิดแก้ไขปัญหาคณิตศาสตร์ได้ค่อนข้างจำกัดจนในที่สุดความมั่นใจและความชอบคณิตศาสตร์ก็จะลดลง หากเป็นเช่นนี้ มันคงจะดีกว่าหากเราไม่ใส่กรอบในการเรียนคณิตศาสตร์

ครูจา

Tags : , , , , , , , , , , , | add comments