บุพเพสันนิวาส
Posted by malinee on Sunday Mar 18, 2018 Under เกร็ดความรู้ตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก ละครบุพเพสันนิวาส ไม่ว่าจะเป็นลูกเล็กเด็กแดง ไปจนถึงคุณปู่ คุณย่าทั่วบ้านทั่วเมือง จนกลายเป็นละครฟีเวอร์ที่มีการจัดกิจกรรม หรือสินค้ามารองรับกับความต้องการของตลาดไปแล้ว
สิ่งหนึ่งที่เราได้จากละครที่แทรกมา ทำให้หลายๆ คนอยากรู้ประวัติศาสตร์ในยุคนั้น มีทั้งการหาหนังสืออ่าน ไปจนกระทั่งการเรียนประวัติศาสตร์เสริม ทั้งๆ ที่เราเคยเรียนประวัติศาสตร์ไทยกันมาโดยตลอด แต่ชื่อที่พูดมาแต่ละชื่อ ไม่สามารถทำให้เรานึกออกได้ว่าอยู่ในช่วงสมัยไหน สิ่งที่เกิดขึ้นมันสะท้อนให้เราได้เห็นว่า การเรียนประวัติศาสตร์บ้านเรา ไม่ได้ทำให้เราได้รู้ว่า การปกครองของเราค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร สิ่งต่างๆ เหล่านี้ มันไปสอดคล้องกับคำบ่นของเด็กๆ ที่ไม่ชอบวิชาสังคมประวัติ ในทางกลับกันเค้าก็ต้องเรียน worlf history ซึ่งถ้าไม่ชอบวิชาท่องจำก็จะไม่ชอบวิชานี้ด้วย กลับกลายเป็นว่า เด็กๆ สามารถลำดับเหตุการณ์ของสงครามโลกครั้งที่ 1 ต่อเนื่องไปจนสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้อยางไร
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว ปัจจัยของเด็กไม่มีแล้ว คราวนี้ปัจจัยที่ทำให้เด็กไม่ชอบเรียนสังคมประวัติเกิดได้ 2 ปัจจัยคือ ครูผู้สอน ก่อนอื่นเราต้องยอมรับว่าครูผู้สอนมีผลกับการเรียนในทุกๆ วิชามาก เพราะครูเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ให้กับเด็ก หากถ่ายทอดให้เด็กโดยการลำดับเหตุการณ์เป็นฉากๆ อย่างที่อาจารย์ของเกศสุรางค์อธิบายลูกศิษย์ ในชั้นฟัง คงมีแต่คนตั้งหน้าตั้งตาฟัง และอีกส่วนที่เป็นปัจจัยที่สำคัญได้แก่ หนังสือเรียนของเรา จะเป็นการกล่าวถึงยุคสมัย พร้อมกับช่วงเวลา และต่อด้วยการจำวิธีการปกครอง การค้าขาย เป็นหัวข้อต่างๆ ตามมาเป็นกระบุงโกย และที่แย่ไปกว่านั้น ข้อสอบจะเป็นข้อสอบที่ถามรายละเอียดว่าเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นในช่วง พ.ศ.ใด ถึง พ.ศ.ใด ซึ่งยากนักที่เด็กจะมานั่งจำทุกๆ หน้า เค้าก็เลือกที่จะเข้าห้องสอบแบบจิ้มข้อที่คุ้นเคย
ครูคิดว่า ออเจ้าทั้งหลายที่มีส่วนเกี่ยงข้องกับหลักสูตรหรือแบบเรียน ควรมีการพิจารณาเปลี่ยนแปลงแบบเรียนให้มีความน่าสนใจมากขึ้น ดีกว่าให้เด็กๆ เรียนรู้ประวัติศาสตร์จากละคร