images            จากประสบการณ์การสอนเด็กที่ผ่านมา เราพบวิวัฒนาการในด้านลบของเด็ก ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ และวัยของเด็กที่เล็กลงทุกปี  ซึ่งหมายถึง ความเอาใจใส่ต่อการเรียน ความเอาใจใส่ในเรื่องการบ้าน หรืองานที่ได้รับมอบหมาย เมื่อสืบค้นหาความจริง เรามักจะได้รับคำตอบทั้งจากตัวเด็ก และพ่อแม่ผู้ปกครองว่า เด็กติดเกมส์ ทำให้เด็กนอนดึก ทั้งเกมส์ออนไลน์ และเกมส์ในโทรศัพท์มือถือ หรือในแท็ปเล็ต

            ในช่วงแรกของการส่งเกมส์ให้เด็ก ๆ พ่อแม่ผู้ปกครองมักถูกหลอกว่าเป็นเกมส์การศึกษา (Educational Game) แต่หลังจากที่เล่นไปได้ซัก1 — 2 เดือน เด็ก ๆ จะรู้สึกว่าเกมส์ดังกล่าวจะไม่ท้าทาย และไม่น่าสนใจ ทำให้ต้องหาเกมส์ใหม่ ๆ ให้กับบุตรหลาน เนื่องจากเริ่มเคยชินกับการที่เด็ก ๆ อยู่นิ่ง หรืออยู่กับเกมส์ได้เป็นเวลานาน เมื่อเด็กอยู่กับเกมส์ ทำให้พ่อแม่ ผู้ปกครองมีเวลาเป็นส่วนตัวมากขึ้น สุดท้ายกลายเป็นการติดกับ  เกมส์ที่แยกลูกออกจากพ่อแม่โดยไม่รู้ตัว

            ความรุนแรงของเกมส์จะมีอยู่ 2 ระดับ คือ เกมส์ที่ติดมากับเครื่อง และเกมส์ออนไลน์ แตกต่างกันตรงที่เกมส์ที่ติดมากับเครื่อง พ่อแม่ผู้ปกครอง สามารถควบคุมเวลาในการเล่นเกมส์ของเด็ก โดยมีการกำหนดเวลาได้อย่างแน่นอน  แต่สำหรับเกมส์ออนไลน์นั้น เด็กที่ติดเกมส์ดังกล่าวจะมีจิตใจจดจ่ออยู่กับเวลาที่เกมส์นั้นกำหนด เช่นอีก 2 ชั่วโมง จะต้องเข้าไปเล่นด่านต่อไป ทำให้เด็ก ๆ ไม่จดจ่อหรือมีสมาธิกับสิ่งที่ทำ จิตใจจอจ่อรอคอยแต่เวลาที่จะเข้าไปเล่นเกมส์อีกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายกับเด็กมากกว่าการเรียน (ซึ่งน่าเบื่อในความคิดของเด็ก)

            จากสิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าวข้างต้น เราจะเห็นว่า โอกาสที่เราจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กเล่นเกมส์ คงเป็นไปได้ยาก หากสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นไปได้ยาก เราก็ต้องมีการวางแผน โดยมีกฏแน่นอน ทั้งในเรื่องของการทำความตกลงเกี่ยวกับความรับผิดชอบของเด็กที่จะต้องทำ (ทั้งการบ้าน และคะแนนสอบ) การไม่ให้เล่นเกมส์ออนไลน์ การกำหนดเวลาของการเล่นให้ชัดเจน รวมถึงการเลือกเกมส์ที่มีความสร้างสรร ไม่ใช่เกมส์ทำลายร้าง ที่บ่มเพาะนิสัยความรุนแรงให้กับเด็กโดยไม่รู้ตัว หากเรามีแผนรองรับที่ดี และสามารถทำตามแผนที่วางไว้ได้ เกมส์ หรือสื่อทางอินเตอร์เน็ต ก็ไม่ใช่สิ่งที่บั่นทอนการเรียนรู้ของเด็กได้

ครู จา

Tags : , , , , , , , , , | add comments