ตอนนี้กระแสวิพากษ์วิจารณ์​กันในสังคมคงหนีไม่พ้นเรื่องของการเรียนออนไลน์​ เนื่องจากสถานการณ์​การแพร่ระบาดทำให้การเปิดเทอมของเด็ก​ต้องยืดเยื้อ​ออกไป​ จริงที่ว่าการเรียนของเด็กๆ​ ไม่ควรหยุดชะงัก​ แต่การเรียนออนไลน์​ของเด็ก​ ต้องพิจารณา​ถึงวัยของเด็กด้วย​ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนออนไลน์​ที่ไหนๆ​ จะเป็นการเปิดสอนในระดับมหาวิทยาลัย​ทั้งสิ้น​ หากเป็นในระดับปฐมวัย​จนถึงมัธยม​จะเป็นการเรียนแบบ​ home school ซึ่งเป็นการนำหลักสูตร​จากประเทศ​ต่างๆ​ มาเป็นแนวการเรียนการสอน​ โดยพ่อแม่​ผู้ปกครอง​ เป็นเสมือนครูผู้สอน
การเรียน​การสอนออนไลน์​ ยิ่งเด็กยิ่งเล็ก​ ยิ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก​ เนื่องด้วยวัย​ ที่ทำให้เรื่องของสมาธิที่ที่จดจ่ออยู่กับเรื่องบางเรื่องนานๆ​ เป็นไปได้ยาก​ นอกจากนี้แล้ววิชาบางวิชาอย่างคณิตศาสตร์​ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะขึ้นเรื่องใหม่ๆ​ ให้กับเด็ก​ เช่น​ถ้าเด็กกำลังเริ่มที่จะเรียนการคูณเลข​สองหลักคูณสองหลัก​ การทำความเข้าใจ​กับเด็กให้มีความเข้าใจ​ ต้องมีการ​ ​recheck กันหลายครั้งเพื่อความมั่นใจว่าเด็กมีความเข้าใจจริงๆ​ ถึงจะให้การบ้านได้​ แล้วลองนึกภาพของการสอนเรื่องการวัดมุมกันนะคะ​ ขนาดสอนกันแบบเห็นกันเป็นตัวเป็นตน​ยังต้องใช้เวลาเลย​แล้วนึกสภาพการเรียนออนไลน์​ ถ้าเป็นการเรียนแบบกลุ่ม​ ไม่มีทาง ที่ทักษะเด็กแต่่ละคนจะเท่ากันได้ถึงแม้ว่าจะอยู่ในวัยเดียวกันก็ตามเพราะฉะนั้นการเรียนออนไลน์ไม่ใช่จะเหมาะกับทุกคนและไม่ใช่ทุกวิชาที่จะสามารถสอนออนไลน์ได้
ดังนั้นการเรียน​ออนไลน์​ในช่วงนี้ของเด็กเล็กเป็นเพียงช่วงเวลาที่รอสถานการณ์​ของการแพร่ระบาด​ให้คลี่คลายเท่านั้น​ แต่การที่การศึกษา​ในช่วงของปฐมวัยจนถึงประถมน้ัินคงไม่อาจถูก​ disruption ด้วยระบบออนไลน์​ได้​ด้วยวัยและความพร้อมของเขา​ นอกจากนี้แล้วเด็กในวัยดังกล่าวไม่ควรถูกปล่อยให้อยู่กับการสื่อสารทางเดียว​ เค้าควรได้มีการเรียนรู้ผ่านระบบประสาทสัมผัส​ให้ครบทั้ง​ ​5 และมีการฝึกทักษะต่างๆผ่านระบบประสาท​สัมผัสดังกล่าว​ เพื่อก่อให้เกิดความฉลาดทางอารมณ์​ และเพื่อค้นหาความสามารถ​ และความถนัดต่อไป…
#เราจะผ่านมันไปด้วยกัน
#สถาบันคิดสแควร์

Tags : , , , , , , , , , , , | add comments

ในช่วงของสถานการณ์​ที่พ่อ​แม่ผู้ปกครอง​หลายๆ​คน​มีโอกาส​ได้อยู่บ้านแบบยาวๆ​ เด็กๆ​ เองก็หยุดแบบยาวๆ​ กัน​ การมีเวลาว่างๆ​ ของเด็ก ถ้าเป็นครอบครัวที่สรรหากิจกรรม​ต่างๆ​ ได้ทำร่วมกัน​ ก็จะทำให้เด็กๆ​ อาจมีเวลาค้นหาตัวตนของตนเองว่าชอบอะไร​ แต่ในปัจจุบันน่าเสียดายที่เวลาของครอบครัว​ถูกเบียดด้วยจอสี่เหลี่ยม​ที่เราเป็นคนพามันเข้าสู่ครอบครัว​ แล้วทำให้เวลาในการปฏิสัมพันธ์​กันในครอบครัว​หายไป​ ทั้งๆ​ ที่อยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน
จากสถานการณ์​ของการระแพร่ระบาด​ ทำให้เกิดสิ่งต่างๆ​ ปรากฏ​การณ์ใหม่ๆ​ หรืออาจเรียกว่าวิวัฒนาการ​ที่ทำให้การดำรงชีวิต​ของเราเปลี่ยนแบบไปบ้างไม่มากก็น้อย​ แต่ที่แน่ๆ​ คือ​เด็กในรุ่นนี้ต้องเผชิญ​กับการแข่งขันที่สูงมาก​ คงไม่มีพ่อแม่​ คนไหนคิิดจะให้บุตรหลานอยู่ภายใต้ปีกที่อบอุ่นของตนเองจนเค้าจากไป​ เรามีเพียงหน้าที่ที่จะดูแล​ชี้นำในสิ่งที่ถูกต้องหรือ​ เลือก#โรงเรียน สังคมให้เขาในวัยเด็กเท่านั้น​ สิ่งที่เราต้องคิดคือ​ เราได้เตรียมความพร้อมให้กับเขาสำหรับยุคของการใช​ AI (Artificial Intelligence) แล้วหรือยัง​
ยุคของ​ AI คืออะไร​ คือยุคที่มีการเปลี่ยนจากแรงงานคนเป็นคอมพิวเตอร์​เกือบทั้งหมด​ คำว่าแรงงานไม่ได้หมายความแค่ผู้ใช้แรงงาน​ แต่หมายรวมถึงพนักงาน​ทั่วไป​ ที่จะถูกแทนที่ด้วยระบบที่มีฐานข้อมูล​ของคอมพิวเตอร์​ทั้งหมด​ ด้วยความที่เกิดมาในยุคดิจิทัล​ ทำให้ทุกอย่างต้องรวดเร็ว​ จึงขาดทักษะ​ของการรอคอย​ ไม่เห็นคุณค่า​ของการสิ่งของที่ได้มา​เพราะไม่เคยต้องแลกกับการรอคอย​ หรือการต้องทำบางอย่างเพื่่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ ประกอบกับทางเลือกของพ่อแม่ผู้ปกครอง​ ทำให้เด็กทุกคนกลายเป็นลูกเทวดาในโรงเรียน​ เพราะโรงเรียนมีการแข่งขันกันสูงจึงถือว่าเด็กนักเรียนเป็นลูกค้า​ ความพึงพอใจ​ของลูกค้าต้องมาก่อน​ เมื่อหันไปหาโรงเรียนทางเลือกอย่างโรงเรียนอินเตอร์​ ซึ่งในช่วงของปฐมวัยจนจบระดับประถมศึกษา​ เน้นการเรียนแบบ​ child center นั่นคือแบบบูรณาการ​ที่เราคุ้นเคย​ การเรียนขึ้นอยู่กับความสนใจของเด็ก บางโรงเรียนการบ้านเป็นแบบ​ optional คือส่งหรือไม่ส่งก็ได้​ กลับกลายเป็นทำให้เด็กขาดวินัยอย่างรุนแรง สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้เด็กในยุค​ ​4.0 กลับกลายเป็นการบ่มเพาะความเปราะบาง​ทางด้านอารมณ์​ ขาดวินัย​ ไร้ความพยายาม​ ไม่มีความอดทน​ สิ่งต่างๆ​ เหล่านี้​ไม่สามารถ​ทำให้เขาเติบโตในยุคของการแข่งขันกับเทคโนโลยี​ได้เลย
ดังนั้น​ อย่าให้เขาต้องเผชิญ​ปัญหา​ในขณะที่เขาไม่สามารถแก้ไขนิสัยได้​ เราซึ่งเป็นพ่อแม่​ ผู้ปกครอง​ เป็นผู้ที่วางกรอบให้​ แต่ไม่ได้มีหน้าที่ในการตีกรอบ​ วางให้เขาอยู่ในระเบียบวินัย​ ใส่ทักษะของการรอคอย​ ปล่อยให้เรียนรู้ที่จะผิดหวัง​ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม​ สร้างภูมิต้านทานให้เขาได้ก้าวเดินอย่างมั่นคงในเวลาที่เขาต้องเดินโดยไม่มีไหล่คุณให้เกาะ..
#เรามีสิทธิเลือกเส้นมางให้ลูก
#เลือกผิด= เหนื่อยเพิ่มขึ้น
#เลือกถูก= อนาคตที่ดีของลูกเรา
#สถาบันคิดสแควร์

Tags : , , , , , , , , , , , , , , , , , | add comments