time-bomb-connected-to-clock-explodes-23074170การดำเนินชีวิตในปัจจุบันนี้ เราพบว่าไม่ว่าเราอยู่ในช่วงวัยใด ก็จะถูกเร่งด้วยเวลาเป็นตัวกำหนดอยู่บ่อยๆ จนทำให้ชีวิตประจำวันของเรานั้น มักเลือกใช้สินค้า และบริการที่สามารถกระชับเวลาที่จำกัดของเราได้ แต่สิ่งที่ต้องยอมรับต่อมาคือ ความประณีตในการทำงานโดยมีเวลาเป็นตัวเร่งนั้น มักได้ชิ้นงาน หรือผลงานออกมานั้นจะมีความประณีตหรือความเอาใจใส่น้อยกว่างานที่ใช้เวลามากกว่า

ในการเรียนก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนใดๆ หากเราเร่งโดยเวลาเป็นตัวกำหนดในทุกๆ ครั้ง ผลที่ตามมาคือการบ่มเพาะความไม่รอบคอบ ความเร่งร้อนให้กับเด็ก ซึ่งถือว่าจะส่งผลในเชิงลบมากกว่า เนื่องจากเมื่อเขาโตขึ้น การคิดวิเคราะห์อย่างรอบคอบ โดยมีมุมมองในทุก ๆ ด้านจะทำให้เขาสามารถแก้ปัญหาในหลายๆ ด้านเป็นดีกว่า หากการถูกบ่มเพาะให้เร่ง การคิดอย่างรอบคอบก็จะไม่เกิดขึ้นในการทำสิ่งใดเลย

คราวนี้เรามามองในแง่การเรียนจินตคณิตบ้าง เนื่องจากความเข้าใจของผู้ปกครองส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า สิ่งที่ควรจะได้รับหรือประโยชน์ของการเรียนจินตคณิตคือ การคิดเลขเร็ว ซึ่งในการเรียนนั้นจะต้องมีการจับเวลาเด็กอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งการเรียนจินตคณิตหลายๆ ครั้งจะมีการจับเวลาเพื่อกระตุ้นให้เด็กๆ ได้คิดเลขเร็วจริง แต่สิ่งที่สำคัญที่จะต้องพิจารณาด้วยนั่นคือ วัยของเด็กที่จะถูกกระตุ้นด้วย เนื่องจากความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมัดเล็ก (กล้ามเนื้อมือ) นั้นจะส่งผลโดยตรงต่อความเครียดที่จะเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเมื่อเกิดความเครียดแล้ว มักส่งผลต่อทรรศนคติในการเรียนคณิตศาสตร์ในอนาคตด้วย ซึ่งประโยชน์ที่จะได้รับในการคิดเลขเร็วนั้น จะไม่คุ้มกับผลเสียต่อการจำกัด (แผน) การเรียน ในอนาคตของเด็กให้แคบลง เพียงเพราะสาเหตุเล็กๆ ที่ผู้สอนมีเจตนาที่ดี โดยคาดไม่ถึงว่าจะเป็นปมเล็กๆ ที่สะสมมาในวัยุเด็ก

ครูจา

Tags : , , , , , , | add comments

สมาธิกับเกมส์

Posted by malinee on Tuesday Apr 1, 2014 Under เกร็ดความรู้

CoolClips_vc004797            ในช่วงของการปิดภาคเรียนแต่ละครั้งนั้น หลายๆ ครอบครัวที่เป็นครอบครัวเดี่ยว มักส่งบุตรหลานเรียนภาคฤดูร้อนกับทางโรงเรียน เพื่อให้เด็กได้มีการทบทวนบทเรียนเก่า พร้อมกับการเรียนรู้เนื้อหาล่วงหน้า ในขณะที่บางครอบครัวที่มีญาติผู้ใหญ่อยู่บ้าน อาจเลือกให้เด็กอยู่บ้าน เพื่อให้เด็กได้พักในช่วงปิดภาคเรียน สิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กรุ่นนี้ที่แตกต่างจากรุ่นที่เมื่อพ่อแม่ยังเด็กคือ ในช่วงที่คุณพ่อคุณแม่ยังเด็กนั้น มักมีคุณยาย ซึ่งเป็นแม่บ้านสามารถดูแลบุตรหลานที่บ้านได้ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องส่งบุตรหลานเข้าเรียน ทำให้เด็กๆ มีกลุ่มการเล่นในช่วงปิดภาคเรียน ซึ่งเขาจะได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้จากประสบการณ์จากรุ่นพี่ รุ่นน้อง เรียนรู้การอยู่ร่วมกันในสังคมโดยไม่รู้ตัว

แต่เด็กรุ่นใหม่ ครอบครัวส่วนใหญ่ทั้งคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานนอกบ้านจึงให้บุตรหลานอยู่กับผู้ใหญ่ (คุณตา คุณยาย หรือ คุณปู่ คุณย่า) พร้อมกับเกมส์หรือทีวีที่บ้าน ก่อนอื่นต้องยอมรับก่อนว่า ความแตกต่างของวัยที่ต่างกันถึง 2 รุ่นนั้น ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างวัยอย่างชัดเจน ทำให้ปฏิสัมพันธ์ที่น้อยลงเนื่องจากความไม่เข้าใจ และความต้องการลดความขัดแย้ง

สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นกิจวัตร ก็คือ เด็กๆ ถูกปล่อยให้อยู่กับเกมส์หรือทีวี ตลอดช่วงเช้าจรดเย็น ตลอดระยะเวลาช่วงปิดภาคเรียน ผลที่ตามมาคือ การบ่มเพาะนิสัย ที่เกิดขึ้น 2 แบบคือ เด็กไม่มีสมาธิในการทำงานใด ๆ เนื่องจากสมาธิที่เสียไปกับการจดจ่อกับเกมส์หรือทีวีมากจนเกินไป อีกกรณคือ เด็กอาจเป็นเด็กที่ไม่มีความกระตือรือร้น ไม่สามารถจดจ่อทำอะไรให้สำเร็จลุล่วง ปัญหาดังกล่าวนี้ พ่อแม่มักหาวิธีแก้ไข โดยการหากิจกรรมให้บุตรหลานเรียน เพื่อเพิ่มสมาธิ ต้องการให้เด็กนิ่งขึ้น สำหรับกรณีแรก ส่วนกรณีที่เด็กไม่มีความกระตือรือร้น พ่อแม่ผู้ปกครองอาจสังเกตได้ช้ากว่า เนื่องจากเด็กจะดูนิ่ง (ไปเลย)

สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น หากถูกบ่มเพาะจนกลายเป็นนิสัยของเด็กแล้ว เป็นสิ่งที่แก้ยาก หากแต่พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถปรับพฤติกรรมได้บ้าง จากการแยกสื่อ และเกมส์ออกจากเด็กให้ได้มากที่สุด แล้วจึงหากิจกรรมเพื่อเสริม เมื่อเด็กทำกิจกรรม ก็จะมีสมาธิ หรือจดจ่อ ในการทำกิจกรรมอยู่ในช่วงเวลาสั้น ๆ และจะเพิ่มสมาธิมากขึ้น เมื่อกิจกรรมดังกล่าวนั้นยากขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป

ครูจา

Tags : , , , , , , , , , , | add comments