การเลือกโรงเรียนให้กับบุตร หลานนั้น เราควรศึกษาแนวทางในแต่ละโรงเรียนให้แจ่มชัด เนื่องจากการเรียนการสอนของโรงเรียนแต่ละแห่งก็จะมีความชัดเจนอยู่แล้ว หลาย ๆ ครอบครัวไม่ได้วางแผนการศึกษาตั้งแต่อนุบาล ส่งบุตรหลานเรียนในโรงเรียนที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับเจ้าตัวน้อย และเลือกโรงเรียนที่คิดว่าทำให้บุตรหลานมีความสุขเมื่อไปโรงเรียน ซึ่งแนวคิดนี้คงไม่มีใครคัดค้านว่าเป็นความคิดที่ไม่ดี ต่อเมื่อเด็กโตขึ้นจนเรียนจบอนุบาล ต้องย้ายโรงเรียน ชีวิตที่เคยมีความสุข ไม่ได้เร่งเรียนแต่อย่างใด กลับเป็นการเรียนแบบเร่งรัดจนตั้งตัวไม่ติด หลาย ๆ คนต้องใช้เวลา 1 เทอม หรือ 1 ปี เพื่อปรับกระบวนการเรียนให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ แต่หลาย ๆ คนอาจต้องใช้เวลามากกว่านั้น ดังนั้น เราควรเก็บข้อมูล และวางแผนการเรียนให้กับบุตรหลาน ตั้งแต่อนุบาลจนถึงปฐมวัย เนื่องจากแนวการศึกษาในระดับมัธยมไม่มีทางเลือกที่มากมายเท่ากับอนุบาล และประถม

คราวนี้ เรามาดูว่าโรงเรียนทางเลือกในประเทศไทย ณ ปัจจุบันมีแนวทางหลัก ๆ อยู่ 2 แนวทาง ซึ่งได้แก่

  1. โรงเรียนในแนวบูรณาการ ซึ่งก็จะมีแบบย่อย ๆ ออกเป็นแขนงต่าง ๆ มากมาย โดยที่โรงเรียนแนวนี้จะไม่เร่งให้เด็กเขียนอ่าน จะใช้กิจกรรมต่าง ๆ เพื่อพัฒนาผู้เรียน เป็นแนวของการเตรียมความพร้อมให้แก่เด็ก เน้นตัวผู้เรียนเป็นแกนกลาง (ตามนิยาม)
  2. โรงเรียนในแนวเร่งเรียน เป็นโรงเรียนที่เน้นการเขียน อ่าน ให้กับเด็ก การเรียนแนวนี้เป็นการเรียนที่เน้นหลักสูตรเป็นแกนกลาง

จากแนวทางของการเลือกหลักสูตรของโรงเรียนแต่ละแห่ง ก็พอจะชี้ให้เห็นว่า หากเด็กที่เรียนอนุบาลจากโรงเรียนที่เร่งเรียน แล้วไปต่อประถมในโรงเรียนแบบบูรณาการ เรามักไม่พบปัญหากับตัวเด็กเท่ากับเด็กที่เรียนในแนวบูรณาการ แล้วย้ายไปอยู่ในโรงเรียนที่เร่งเรียน ปัญหาที่มักเกิดขึ้นคือ จำนวนของโรงเรียนทางเลือกที่เป็นแนวบูรณาการในช่วงอนุบาลมีมากกว่าโรงเรียนในแนวเดียวกันในช่วงของประถมศึกษาเป็นจำนวนมาก และพ่อแม่ผู้ปกครองพิจารณาแต่ว่า อยากให้เจ้าตัวน้อยเรียนรู้อย่างมีความสุข หากความสุขนั้นยาวนานตลอดของการเรียนจนถึงบัณฑิตก็จะดีไม่น้อย

 

Leave a Reply