ครูได้มีโอกาสคุยกับเด็ก​ ม.​ปลาย​ หลายๆ​ คน​ หลาย​ๆ​ ครั้งที่ได้คุยกันเรื่องการเลือกเรียนต่อในมหาวิทยาลัย​ คำตอบที่ได้กลับมาคือ​ การอยากไปเรียนต่อต่างประเทศ​ ค่านิยมดังกล่าวเกิดขึ้น​ เนื่องจากการที่เด็กมีความรู้สึกว่าการเรียนต่อต่างประเทศ​เป็นการอัพเกรดให้ตนเองเมื่อจบมาจะได้มีเงินเดือนที่สูงกว่าการเรียนในประเทศ​ หรือส่วนใหญ่​ประเมินว่าตนเองจะไม่สามารถ​เข้าเรียนในสาขาวิชาที่ตนเองต้องการในประเทศได้
ที่จริงแล้วการเรียนต่อต่างประเทศ​ที่จะทำให้ได้เงินเดือนที่สูงขึ้นได้​ เพราะการเรียน​ต่อในแบบดังกล่าวเป็นการสอบชิงทุน​ ซึ่งการสอบชิงทุนนั้นจะต้องผ่านการสอบคัดเลือก​ที่เลือกเฟ้นผู้เรียน​ ที่มีความรับผิดชอบ​ในการเรียน​ และะความรับผิดชอบ​ในหน้าที่ของตนเอง​ โดยการเรียนดีอาจเป็นสิ่งเดียวที่เป็นข้อพิสูจน์​ได้ว่าเด็กคนนั้นมีความรับผิดชอบ​ต่อหน้าที่ของตนเอง​ (มาตรฐานของคนไทย)​ เพราะเด็กไทยไม่ต้องรับผิดชอบ​หน้าที่ด้านอื่น​
ส่วนการเรียนต่อต่างประเทศ​ โดยใช้ทุนของตนเอง​ อาจเป็นเพราะลดภาวะการสอบแข่งขันให้กับ​บุตรหลาน..เช่นใน การเรียน​หมอ​ ..คำตอบของเด็กหลายๆ​ คน​ว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร​ คำตอบที่เราได้รับจะหนีไม่พ้น​ หมอ​ หรือ​ ครู​ แต่เมื่อเด็กโตขึ้น​ ความอยากเป็นครูจะหายไป​ เหตุผลคือ​ ผลตอบแทน​ และการเป็นที่ยอมรับ​ในสังคม ความเป็นหมอมีมากที่สุดในสังคมไทย​ จึงทำให้เด็กหลายคนรวมทั้งพ่อแม่อยากให้ลูกเป็นหมอ..ซึ่งการเรียนในสายแพทย์ในเมืองไทย​ แน่นอนจะต้องเรียนในสายวิทย์-คณิต​ แต่ที่มากกว่านั้นคือความเพียร​ ความช่างสังเกต​ การจดบันทึก​ ความมีระเบียบวินัย​ความกระตือรือร้น​ในการเรียนรู้​ และความพยายาม​ในการแก้ปัญหา​ ซึ่งสิ่งต่างๆ​ เหล่านี้มักจะถูกฝึกจากการเรียนที่ค่อนข้างหนักในสายวิทย์-คณิต​ แต่ไม่ได้หมายความว่าการเรียนในสายอื่นไม่มีสิ่งต่างๆ​ เหล่านี้​ การสอบคัดเลือกเข้าเรียน​โรงเรียน​แพทย์​ในรอบแรก​ (รอบ​ portfollio)​ จะต้องมีเกรดเฉลี่ย​ 3.5​ ขึ้นไป​ และส่งผลของการสอบ​ Bmat​ และ​ ภาษาอังกฤษ​ ตามที่ทางมหาวิทยาลัย​กำหนด​ ในขณะที่การเรียนต่อโรงเรียน​แพทย์ในต่างประเทศ​ ต้องการเกรดเฉลี่ย​3.0 โดยที่เด็กไม่จำเป็นต้องเรียนวิทยาศาสตร์​ทั้ง​3 ตัว(และไม่มีสายวิทย์ คณิต)เหมือนบ้านเรา​ การเรียนวิทยาศาสตร์​ เป็นการเลือกเรียน​2 ใน​3 ตัวเท่านั้น​ เนื่องจากในต่างประเทศ​มุ่งเน้นให้เด็กรู้จักตัวตนก่อน​ แล้วจึงเลือกเรียน​ จึงไม่มีการเลือกสาย​ เหมือนบ้านเรา​ ทำให้เด็กส่วนใหญ่​ไม่ค่อยเลือกเรียนในด้านวิทยาศาสตร์​ เพราะเป็นวิชาที่ยากกว่าการเรียนภาษา​ ดังนั้นการเลือกเรียนหมอที่เมืองนอกจึงง่ายกว่าเมืองไทย ถ้าพูดถึงการสอบคัดเลือกในกาเรียนหมอเมืองไทยเข้มกว่ามากเพราะเข้มและยากกว่านี่เองทำให้เด็กที่จบหมอจากบ้านเรามามีเก่งในทุกด้านและความรักและภูมิใจในอาชีพ และบ้านเราจะได้หมอที่มีฝีมือที่ดีมากไม่แพ้เมืองนอกเลย..
จะเห็นได้ว่า​ ไม่ใช่ว่าระบบการศึกษา​ของบ้านเราล้มเหลว​แต่เพียงเพราะค่านิยมของคำว่า จบจากเมืองนอก หรือไปเรียนเมืองนอกทำให้เด็กไทยพยายามหาทางไปเรียนต่อต่างประเทศซึ่งจริงๆแล้วการศึกษาบ้านเราเก่งไม่แพ้ใครเพียงแต่เด็กในรุ่นหลัง ขาดความอดทน พ่อแม่ตามใจ พอเจอการเรียนที่ยากหน่อย ก้อไม่พยายามสู้ มีฐานะหน่อยก้อหาทางลัดให้ลูกจบได้ง่ายกว่า จึงทำให้ค่านิยมนี้ยังอยู่กับเด็กไทยไปทุกยุคทุกสมัย. สุดท้ายนี้ครูอยากฝากถึงเด็กม.ปลายทุกคนที่กำลังจะเลือกคณะเข้ามหาวิทยาลัย มันคือ ประตูก้าวแรกที่เราจะเลือกในการดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเลือกสายไหน อาชีพไหนก็ตาม..ขอแค่หาตัวเองให้เจอ และที่สำคัญ เป็นคนดีของสังคม…
#เรียนเมืองไทยภูมิใจกว่าเยอะ.
#เด็กไทยเก่งไม่แพ้ชาติไหน..
#เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ..
#สถาบันคิดสแควร์

Leave a Reply