อยากเรียนเมืองนอก
Posted by malinee on Thursday Jan 30, 2020 Under ข่าวการศึกษา ครูได้มีโอกาสคุยกับเด็ก ม.ปลาย หลายๆ คน หลายๆ ครั้งที่ได้คุยกันเรื่องการเลือกเรียนต่อในมหาวิทยาลัย คำตอบที่ได้กลับมาคือ การอยากไปเรียนต่อต่างประเทศ ค่านิยมดังกล่าวเกิดขึ้น เนื่องจากการที่เด็กมีความรู้สึกว่าการเรียนต่อต่างประเทศเป็นการอัพเกรดให้ตนเองเมื่อจบมาจะได้มีเงินเดือนที่สูงกว่าการเรียนในประเทศ หรือส่วนใหญ่ประเมินว่าตนเองจะไม่สามารถเข้าเรียนในสาขาวิชาที่ตนเองต้องการในประเทศได้
ที่จริงแล้วการเรียนต่อต่างประเทศที่จะทำให้ได้เงินเดือนที่สูงขึ้นได้ เพราะการเรียนต่อในแบบดังกล่าวเป็นการสอบชิงทุน ซึ่งการสอบชิงทุนนั้นจะต้องผ่านการสอบคัดเลือกที่เลือกเฟ้นผู้เรียน ที่มีความรับผิดชอบในการเรียน และะความรับผิดชอบในหน้าที่ของตนเอง โดยการเรียนดีอาจเป็นสิ่งเดียวที่เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าเด็กคนนั้นมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง (มาตรฐานของคนไทย) เพราะเด็กไทยไม่ต้องรับผิดชอบหน้าที่ด้านอื่น
ส่วนการเรียนต่อต่างประเทศ โดยใช้ทุนของตนเอง อาจเป็นเพราะลดภาวะการสอบแข่งขันให้กับบุตรหลาน..เช่นใน การเรียนหมอ ..คำตอบของเด็กหลายๆ คนว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร คำตอบที่เราได้รับจะหนีไม่พ้น หมอ หรือ ครู แต่เมื่อเด็กโตขึ้น ความอยากเป็นครูจะหายไป เหตุผลคือ ผลตอบแทน และการเป็นที่ยอมรับในสังคม ความเป็นหมอมีมากที่สุดในสังคมไทย จึงทำให้เด็กหลายคนรวมทั้งพ่อแม่อยากให้ลูกเป็นหมอ..ซึ่งการเรียนในสายแพทย์ในเมืองไทย แน่นอนจะต้องเรียนในสายวิทย์-คณิต แต่ที่มากกว่านั้นคือความเพียร ความช่างสังเกต การจดบันทึก ความมีระเบียบวินัยความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ และความพยายามในการแก้ปัญหา ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้มักจะถูกฝึกจากการเรียนที่ค่อนข้างหนักในสายวิทย์-คณิต แต่ไม่ได้หมายความว่าการเรียนในสายอื่นไม่มีสิ่งต่างๆ เหล่านี้ การสอบคัดเลือกเข้าเรียนโรงเรียนแพทย์ในรอบแรก (รอบ portfollio) จะต้องมีเกรดเฉลี่ย 3.5 ขึ้นไป และส่งผลของการสอบ Bmat และ ภาษาอังกฤษ ตามที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนด ในขณะที่การเรียนต่อโรงเรียนแพทย์ในต่างประเทศ ต้องการเกรดเฉลี่ย3.0 โดยที่เด็กไม่จำเป็นต้องเรียนวิทยาศาสตร์ทั้ง3 ตัว(และไม่มีสายวิทย์ คณิต)เหมือนบ้านเรา การเรียนวิทยาศาสตร์ เป็นการเลือกเรียน2 ใน3 ตัวเท่านั้น เนื่องจากในต่างประเทศมุ่งเน้นให้เด็กรู้จักตัวตนก่อน แล้วจึงเลือกเรียน จึงไม่มีการเลือกสาย เหมือนบ้านเรา ทำให้เด็กส่วนใหญ่ไม่ค่อยเลือกเรียนในด้านวิทยาศาสตร์ เพราะเป็นวิชาที่ยากกว่าการเรียนภาษา ดังนั้นการเลือกเรียนหมอที่เมืองนอกจึงง่ายกว่าเมืองไทย ถ้าพูดถึงการสอบคัดเลือกในกาเรียนหมอเมืองไทยเข้มกว่ามากเพราะเข้มและยากกว่านี่เองทำให้เด็กที่จบหมอจากบ้านเรามามีเก่งในทุกด้านและความรักและภูมิใจในอาชีพ และบ้านเราจะได้หมอที่มีฝีมือที่ดีมากไม่แพ้เมืองนอกเลย..
จะเห็นได้ว่า ไม่ใช่ว่าระบบการศึกษาของบ้านเราล้มเหลวแต่เพียงเพราะค่านิยมของคำว่า จบจากเมืองนอก หรือไปเรียนเมืองนอกทำให้เด็กไทยพยายามหาทางไปเรียนต่อต่างประเทศซึ่งจริงๆแล้วการศึกษาบ้านเราเก่งไม่แพ้ใครเพียงแต่เด็กในรุ่นหลัง ขาดความอดทน พ่อแม่ตามใจ พอเจอการเรียนที่ยากหน่อย ก้อไม่พยายามสู้ มีฐานะหน่อยก้อหาทางลัดให้ลูกจบได้ง่ายกว่า จึงทำให้ค่านิยมนี้ยังอยู่กับเด็กไทยไปทุกยุคทุกสมัย. สุดท้ายนี้ครูอยากฝากถึงเด็กม.ปลายทุกคนที่กำลังจะเลือกคณะเข้ามหาวิทยาลัย มันคือ ประตูก้าวแรกที่เราจะเลือกในการดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเลือกสายไหน อาชีพไหนก็ตาม..ขอแค่หาตัวเองให้เจอ และที่สำคัญ เป็นคนดีของสังคม…
#เรียนเมืองไทยภูมิใจกว่าเยอะ.
#เด็กไทยเก่งไม่แพ้ชาติไหน..
#เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ..
#สถาบันคิดสแควร์